หน้า 5 จาก 5
การแต่งกาย
การแต่งกาย นับจากวันนี้ประมาณ 60 ปี ให้หลัง ชาวไทโย้ยยังแต่งกายเหมือนบรรพบุรุษของตนเสื้อผ้าหายาก ต้องผลิตเอง นับแต่ตั้งทำไร่ฝ้าย จนถึงทอเป็นผ้า ตัดเย็บ (เย็บมือ) และย้อมเอง (ย้อมด้วยคราม) ต้องทำสวนคราม กางเกงชาย เรียก "ส่งฮั่ง " ถ้าเป็นเด็กกลัวหลุด ก็ใช้ด้ายสอดมัด เรียกว่า "ส่งหัวยุ่ม" ผ้าสะโหร่ง ก็นิยมใช้ จะทอด้วยไหม สมัยนั้นชาวไทโย้ยยังนิยมเลี้ยงหม่อน แต่เรียกว่า เลี้ยงไหม (ทุกวันนี้เลิกหมดแล้ว ) ส่วนเสื้อนั้น เป็นเสื้อคอกลมแขนกว้าง แขนสั้นหรือยาวก็ทรงแขนกกว้างเหมือนกัน ย้อมด้วยคราม ผ้าขะม้าคาดพุง (แพรเลงมัดแอว ) ถือว่าสุดหล่อ มีชุดเอาบุญและชุดแต่งทั่วไป ชุดเอาบุญจะแต่งเฉพาะวันสำคัญ เพราะทำความสะอาดยาก ไม่มีผงซักผ้า ใช้พืชธรรมชาติ เช่น หมากหนามแท่ง (ต้นหนามระเวียง ) ผ่าครึ่งวางผ้าบนหัวเรือในลำน้ำยาม นำหมากหนามแท่งถูไปมามีฟองเล็กน้อย ผ้าก็สะอาดขึ้น แต่ไม่ขาวเหมือนทุกวันนี้ เรียกว่า "ซูผ้า" ต่อมามีสบู่ลาย คงจะดีกว่าหมากหนามแท่ง ครั้นต่อมาอีกก็มีสบู่ชันไลต์ จึงมีผงซักผ้าเหมือนทุกวันนี้ ส่วนการแต่งกายของแม่หญิงโย้ย ก็เป็นซิ่นมัดหมี่ ต่อตีน - ต่อหัว (ตีนซิ่นเก็บ - ทอด้วยลายสวยงามกว่าหัวซิ่น ) ที่ต่อตีนต่อหัวถือว่าสวยที่สุด นุ่งเอาบุญ ที่ไม่ต่อก็นุ่งทั่วไป ส่วนเสื้อนั้นเรียกว่า " เสื้อแขนกะบั้ง "เสื้อพวง (เสื้อต่อง) ย้อมด้วยคราม สีขาวก็นิยมใส่ให้เห็น แต่น้อยกว่าย้อมคราม ดังนั้น ยุคนั้นทุกครัวเรือนต้องทำไร่ฝ้ายและสวนคราม ทรงผม คนแก่นิยมทรงผมหลังรถ (ตัดสั้นเกรียน เหลือส่วนหน้านิดเดียว) คนหนุ่มชอบทรงพระจันทร์ครึ่งซีก (ด้านหลังสั้น บางถึงหูด้านหน้ายาว) ส่วนผู้หญิงมีอายุหน่อย ก็นิยมทรงดอกท่ม (กลมรอบศีรษะ) สาว ๆ ไว้ผมยาวแต่ไม่ปะบ่า (ผมบ๊อบ)
การดำรงชีพ
การดำรงชีพ คนโย้ยในยุคโน้นเป็นสังคมเกษตร การค้าขายนั้นมีน้อย ทำนาเป็นหลัก ทำไร่ก็เป็นไร่ฝ้าย (ปลูกแตงดิน แตงโมปนกันไป) ทำด้วยครามและสวนน้ำยาม การทำไร่ฝ้าย การทำนา ทำตลอดทุกปี * การหาปลาตามหนองน้ำ ตามลำน้ำยาม ด้วยเครื่องดักปลานานาชนิด เช่น ซวาง - ส่อน - ไซ- จั่น - ตุ้ม - โทง - ขา - ลอบ - เสือนอนกิน - ผีน้อย - ลัน - แห - มอง - แหลมสอด - เบ็ดโก่ง - เบ็ดคัน - เบ็ดเผียก-เบ็ดสะโน-สุ่ม-จะดุ้ง (ยกยอ) เป็นต้น ที่มีเครื่องดักปลาหลากหลาย ก็เพราะท่านศึกษาจนรู้ว่า จะดักปลาชนิดใด ต้องใช้เครื่องมือชนิดใด เช่น อยากกินปลาไหล ต้องใช้ลันไปดัก อยากกินปลาค่าว ต้องใส่ซวาง หรือ เบ็ดโก่ง เป็นต้น ส่วนอาชีพการดักสัตว์ไม่มีมาก ไม่มีหลากหลาย เพราะสภาพแวดล้อมไม่เป็นดง เป็นป่าเต็งรัง สัตว์ใหญ่ เช่น ช้าง ไม่ได้ยินคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังเลย ได้ยินแต่เสือ หมาจิ้งจอก กระต่าย เป็นต้น เครื่องดักสัตว์ เช่น จ่วงเจ๊าะ - ซังนกคุ่ม - ตางบาง ซุ่มแอ้ว - เพนียด -แร้ว-แร้วฮุบ-คืน ที่กล่าวมาสำหรับดักนกดักไก่ป่า เป็นต้น ซิง - หล่วง สำหรับดักกระต่าย ดักหนู สำหรับเครื่องมือเกษตร เช่น ไถ่ คราด ไม้ลูบ จอบ เสียม เกี่ยว ไม้ฟาดข้าว ไม้คานหลาว บ่าแก้ว แอกใหญ่ แอกน้อย เกวียน เป็นต้น คนโย้ยในอดีต ดำรงชีพอย่างมีความสุขได้ เพราะท่านเก่งในเรื่องการเกษตร ทำไร่ไถนา เลี้ยงวัว ควายไว้ใช้งาน ทำเครื่องดักสัตว์นานาชนิดเลี้ยงลูกหลานให้รอดตายมาได้ ดำรงชีวิตแบบพอเพียง
<< เริ่ม < ก่อนหน้า 1 2 3 4 5 ต่อไป > สุดท้าย >> |